ความคิดและจิตวิทยาของนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จในตลาดการลงทุนระดับโลกเป็นเรื่องที่น่าศึกษา และนำมาปรับใช้ในการบริหารพอร์ตการลงทุน เพราะในช่วงที่ตลาดเกิดความผันผวนอย่างหนักจากสภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่มีความแน่นอน อาจทำให้บรรยากาศแห่งการลงทุนดูซบเซาลงไป ซึ่งแท้ที่จริงแล้วการลงทุนที่มีประสิทธิภาพนั้น เป็นเกมที่ต้องเฝ้าดูกันไปนาน ๆ ความคาดหวังผลกำไรระยะสั้นคือสิ่งชั่วคราวที่ผ่านมาแล้วก็จะผ่านไป ดังนั้นสำหรับใครที่กำลังท้อแท้หมดกำลังใจอยู่ในตอนนี้ มาฟังแนวคิดที่เต็มไปจิตวิทยาการลงทุนจากนักลงทุนระดับโลกกันดีกว่าว่า พวกเขามองภาพการลงทุนกันอย่างไร
4 สุดยอดนักลงทุนระดับโลก กับความคิดและจิตวิทยาของนักลงทุน
ความคิดและจิตวิทยาของนักลงทุน คือ การศึกษาและเรียนรู้ความต้องการด้านการลงทุนของตัวเอง ไม่ใช่การศึกษาพฤติกรรมการลงทุนของคนอื่น เมื่อไหร่ที่เรารู้จักจิตใจของเราอย่างถ่องแท้ เราจะสามารถหาความรู้จากภายนอกได้อย่างถี่ถ้วน และทราบหรือไม่ว่า นักลงทุนที่ศึกษาเรื่องนี้จนเข้าใจ พวกเขาเหล่านั้นล้วนประสบความสำเร็จกับการลงทุนระยะยาว ดังนั้นในตอนนี้หากใครต้องการกำลังใจ แนวคิด และหลักทางจิตวิทยา เราไปศึกษาจากนักลงทุนระดับโลกกันเลยดีกว่า
- วอร์เรน บัฟเฟตต์
วอร์เรน บัฟเฟตต์ เกิดในปี 2473 เป็นมหาเศรษฐีระดับโลกที่ได้รับฉายาว่า “ผู้ไม่เคยล้มเหลวจากการลงทุน” โดยในวัย 92 ปีที่ผ่านมา เขาได้รับการจัดอันดับจากนิตยสาร Forbes ให้เป็นบุคคลที่ร่ำรวยเป็นอันดับ 5 ของโลก มีสินทรัพย์ที่ถือครองทั้งหมด 118,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเขามักจะมีประโยคทองมอบเป็นกำลังใจให้กับนักลงทุนมือใหม่อยู่เสมอ เช่น “เมื่อคุณซื้อแต่ของไม่จำเป็น ไม่ช้าคุณจะต้องขายของที่จำเป็นออกไป” หรือ “หมอกร้ายมักจะปกคลุมเศรษฐกิจเป็นระยะ แต่จะมีบางช่วงเวลาที่ฝนตกเป็นทอง เมื่อถึงเวลานั้นจงคว้าถังขึ้นมา” เป็นต้น
- เรย์ ดาลิโอ
เกิดในปี 2492 มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน ผู้บริหารบริษัทเฮดจ์ฟันด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือ Bridgewater Associates โดยเรย์ ดาลิโอมีความเชื่อว่า “คนที่จะประสบความสำเร็จได้ จะต้องเป็นผู้ที่ปฏิบัติตามหลักการเท่านั้น” ซึ่งหลักการในการลงทุนของเขายังเป็นต้นแบบทางความคิดและจิตวิทยาของนักลงทุนที่หลายคนนำมาปรับใช้ คือ
- ลงทุนในสิ่งที่ชอบ เพื่อไม่สร้างความกดดันให้กับตัวเอง
- มีอิสระทางความคิด ไม่ยอมให้ความคิดคนอื่นมีอิทธิพลเหนือกว่า
- นำเสนอความคิดเห็นของเรากับผู้ที่ฉลาดกว่า เพื่อหาแนวทางที่ดีกว่า
- ไม่มั่นใจในความรู้ของตัวเองจนมากเกินไป
- ศึกษาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ เพื่อลดความเสี่ยงจากความไม่รู้
- ยอมรับความเป็นจริง และเรียนรู้เพื่อการพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง
- ชาร์ลี มังเกอร์
มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน คนสำคัญข้างกายของวอร์เรน บัฟเฟตต์ เกิดในปี 2467 และเป็นผู้กุมบังเหียนรองประธานของ Berkshire Hathaway ที่เป็นกลุ่มบริษัทของวอร์เรน บัฟเฟตต์ โดยชาร์ลี มังเกอร์ คือบุคคลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการลงทุนจนเป็นตำนานของวอร์เรน บัฟเฟตต์ เขาได้แนะนำให้วอร์เรน บัฟเฟตต์ลงทุนกับบริษัทที่มีคุณภาพ โดยพิจารณาจากความได้เปรียบในการแข่งขัน และโอกาสในเติบโตของบริษัท มากกว่าการให้ความสำคัญกับตัวเลขที่แสดงในงบการเงิน หรือเข้าลงทุนในบริษัทที่มีราคาต่ำ เพราะบริษัทเหล่านี้ส่วนใหญ่จะมีคุณภาพระดับกลางเท่านั้น โดยประโยคทองที่ชาร์ลี มังเกอร์มักจะพูดอยู่เป็นประจำ คือ “เงินก้อนใหญ่ ไม่ได้อยู่ที่การซื้อหรือการขาย แต่อยู่ที่ความอดทนและรอคอย”
- ปีเตอร์ ลินช์
เกิดในปี 2487 เป็นตำนานที่นักลงทุนรู้จักและนำเอาหลักการลงทุนของเขามาใช้ โดยผลงานอันโดดเด่นของเขา คือ การบริหารจัดการกองทุนชื่อ กองทุน Fidelity Magellan ที่สามารถสร้างผลตอบแทนให้แก่นักลงทุนได้มากกว่า 30% แบบทบต้น ตลอดระยะเวลา 13 ปี จนทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในผู้จัดการกองทุนที่เก่งที่สุดในโลก โดยหลักการทำงานของเขาคือ ทำงานอย่างหนัก และอ่านข้อมูลลงทุนทั้งหมดจากเอกสารกองโต เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ดีที่สุด แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ค้นพบคำตอบว่า ถึงแม้เขาจะรวยมากขึ้น แต่เขาก็ยังจน “เวลา” อยู่ดี เพราะเขาไม่มีเวลาได้อยู่กับครอบครัวเลย จึงได้สินใจลาออกในที่สุด
และหลังจากที่เขาลาออกได้ไม่นาน ภรรยาของเขาก็เสียชีวิตลงด้วยโรคประจำตัว ทำให้เขาได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชาวนาที่อยากได้ที่ดินของยักษ์ ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าชาวนาจะต้องวิ่งบนที่ดินอย่างสุดกำลัง เมื่อหมดวันชาวนาวิ่งได้เนื้อที่เท่าไหร่ ทั้งหมดนั้นจะกลายเป็นของชาวนาและครอบครัว ทำให้ชาวนาวิ่งจนลืมหายใจ และทั้ง ๆ ที่รู้ว่าตัวเองได้ที่ดินมามากพอแล้วชาวนาก็ไม่หยุดวิ่ง จนสุดท้ายก็สิ้นลมหายใจ เรื่องราวนี้สอนความคิดและจิตวิทยาของนักลงทุนเป็นอย่างดีว่า “เมื่อเหนื่อยก็หยุดวิ่งบ้าง เพราะสุดท้ายแล้วถึงจะมีเงินทองมากขนาดไหน เราก็จะไม่มีโอกาสได้ใช้ ถ้าเรายังหยุดวิ่งไม่เป็น”
ความคิดและจิตวิทยาของนักลงทุนจากนักลงทุนผู้ประสบความสำเร็จระดับโลก ได้สอนให้นักลงทุนรุ่นใหม่ได้เข้าใจว่า จิตวิทยาการลงทุนมีความสำคัญต่อความสำเร็จเป็นอย่างมาก การเข้าใจความต้องการของตัวเอง การรู้จัดอดทนและรอคอย การรู้จักหยุดพักเมื่อรู้สึกว่าเหนื่อยเกินไป และการรู้จักวางแผนการลงทุน ล้วนเป็นเข็มทิศที่ชี้ไปยังจุดหมายเดียวกัน นั่นคือ ความสำเร็จในเป้าหมายการลงทุน
Tags: ความคิดและจิตวิทยาของนักลงทุน